การตลาดออนไลน์ By Panda99

ปฎิเสธไม่ได้เลยว่าโลกออนไลน์เข้ามามีอิทธิพลต่อเราตั้งแต่ตื่นเช้าจนถึงเข้านอนด้วยความรวดเร็วของข้อมูลและความสะดวกสบาย
โลกออนไลน์จึงถูกนำมาประยุกต์ใช้กับการประกอบอาชีพแทบจะทุกสาขาไม่เว้นแม้กระทั่ง การตลาดออนไลน์ (Online Marketing) ซึ่งปัจจุบันได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย เนื่องจากคนรุ่นใหม่หันมาซื้อสินค้าหรือบริการผ่านอินเทอร์เน็ตกันมากขึ้น
ดังนั้นหากต้องการให้ธุรกิจประสบความสำเร็จการตลาดออนไลน์จึงมีส่วนสำคัญอย่างมากเพราะสามารถโฆษณาหรือประชาสัมพันธ์ให้คนรู้จักได้เป็น วงกว้างในระยะเวลาอันสั้น สำหรับโลกธุรกิจที่มีการแข่งขันอย่างรุนแรงหากคุณแย่งพื้นที่สื่อออนไลน์ได้เร็ว นั้นเท่ากับว่าคุณก้าวนำคู่แข่งไปแล้วหนึ่งก้าวนั่นเอง
การตลาดออนไลน์ (Online Marketing) คือ
การตลาดออนไลน์ (Online Marketing) คือ การส่งเสริมธุรกิจหรือการทำการตลาดผ่านสื่อออนไลน์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อโฆษณาหรือประชาสัมพันธ์สินค้าหรือบริการให้เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง ทำให้ลูกค้าเกิดความสนใจและตัดสินใจอยากซื้อสินค้าหรือบริการนั้นๆ เพิ่มขึ้น สำหรับวิธีที่นิยมใช้ในการทำการตลาดออนไลน์ เช่น เว็บไซต์ การทำบล็อก การโฆษณาผ่าน Google, Facebook, Instagram หรือ YouTube
Online marketing มีความสำคัญอย่างไร
ปัจจุบันสื่อออนไลน์เป็นอีกหนึ่งช่องทางที่มีความสำคัญเข้ามาช่วยส่งเสริมและประชาสัมพันธ์เพื่อเพิ่มยอดขายสินค้าหรือบริการได้เป็นอย่างดี เจ้าของธุรกิจส่วนใหญ่หันมาทำการตลาดออนไลน์กันเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเนื่องจากส่งผลดีต่อธุรกิจหลายอย่าง สำหรับ Online marketing มีความสำคัญและเป็นประโยชน์ต่อธุรกิจ ดังนี้
1. ลดค่าใช้จ่ายบางส่วนที่ไม่จำเป็นได้
การทำการตลาดในยุคเก่ามักจะใช้วิธีการประชาสัมพันธ์แบบออนไลน์เป็นหลักซึ่งการประชาสัมพันธ์แบบนี้จะมีต้นทุนที่เกิดจากงานพิมพ์ เช่น ใบปลิว โบรชัวร์ หรือแคตตาล็อก ที่ต้องจัดทำเพื่อแจกให้ลูกค้าได้รู้จักและเข้าถึงสินค้าหรือบริการที่มี แต่การตลาดออนไลน์เป็นเหมือนเครื่องมือที่เข้ามาช่วยลดค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ได้โดยสามารถลดจำนวนการพิมพ์ลงและเปลี่ยนมาประชาสัมพันธ์บนสื่อออนไลน์ผ่านเว็บไซต์หรือแพลตฟอร์มต่างๆ ที่มีอยู่หลายช่องทางทำให้กลุ่มเป้าหมายเข้าถึงข้อมูลได้ง่าย สะดวก รวดเร็ว อีกทั้งการแก้ไขหรือปรับปรุงข้อมูลก็ทำได้ง่ายโดยใช้งบประมาณเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
2. เป็นการสื่อสารสองทาง
การสื่อสารสองทางนับว่าเป็นประโยชน์ต่อผู้ที่สนใจซื้อสินค้าหรือบริการและเจ้าของธุรกิจเอง เนื่องจากบ่อยครั้งผู้สนใจเกิดมีคำถามและอยากรู้ข้อมูลของสินค้าเพิ่มเติม การตลาดออนไลน์จะเข้ามาช่วยให้เจ้าของธุรกิจสามารถตอบคำถามลูกค้าได้อย่างทันท่วงที ไม่ต้องรอเดินทางไปถึงหน้าร้าน ยิ่งลูกค้ารับรู้ข้อมูลได้เร็วเท่าไหร่นั้นเท่ากับว่าลูกค้าจะตัดสินใจซื้อสินค้าได้เร็วเท่านั้น ดังนั้น การสื่อสารสองทางถือเป็นข้อดีและมีความสำคัญต่อการประกอบธุรกิจเป็นอย่างมาก
3. สามารถระบุและเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ง่าย
ปัจจุบันแพลตฟอร์มต่างๆ ที่ใช้เป็นช่องทางโฆษณาหรือประชาสัมพันธ์สินค้าหรือบริการสามารถระบุกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการสื่อสารไปถึงได้ เช่น ระบุเพศ อายุ ความสนใจ ช่วงราคา หรือพื้นที่อยู่อาศัย ปัจจัยเหล่านี้จะช่วยเป็นตัวกรองทำให้การโฆษณาหรือประชาสัมพันธ์ไปถึงกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการอย่างแท้จริง ช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย ไม่ต้องทำการประชาสัมพันธ์แบบสุ่ม เป็นการเพิ่มโอกาสและผลกำไรทางธุรกิจเพื่อทำให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อสินค้าได้ง่ายและรวดเร็วยิ่งขึ้น
4. เป็นเครื่องมือที่น่าเชื่อถือและสามารถวัดผลได้แม่นยำ
การทำการตลาดออนไลน์บนสื่อโซเชียลหรือแพลตฟอร์มต่างๆ มีข้อดีมากมาย เนื่องจากเทคโนโลยีที่นำมาใช้ทำให้เจ้าของธุรกิจสามารถตรวจสอบข้อมูลต่างๆ ของผู้ใช้งานได้ เช่น ความสนใจของลูกค้า จำนวนผู้เข้าชมสินค้าหรือบริการในแต่ละวัน ยอดสั่งจอง ยอดขายสินค้า เป็นต้น ข้อมูลเหล่านี้ถือว่าเป็นข้อมูลที่มีประโยชน์อย่างมากต่อการประกอบธุรกิจ เนื่องจากสามารถบ่งบอกได้ว่าการลงทุนไปกับสินค้าหรือบริการนั้นๆ ได้รับกำไรหรือผลตอบแทนที่คุ้มค่าหรือไม่เพื่อใช้ในการวางแผนการขายต่อไปในอนาคตนั้นเอง
5. มีความหลากหลายของเนื้อหาและข้อมูล
การตลาดออนไลน์มีลูกเล่นหรือเทคนิคที่มีความหลากหลายในการผลิตสื่อโฆษณา โดยสามารถสื่อสารได้ทั้งรูปภาพ วีดีโอ เสียง สิ่งเหล่านี้จะช่วยดึงดูดให้ลูกค้าเกิดความสนใจสินค้าหรือบริการของเรามากขึ้น อีกทั้งการเข้าชมก็สามารถทำได้ง่ายไม่ว่าจะอยู่ในประเทศหรือต่างประเทศก็เข้าถึงข้อมูลได้ง่าย ยิ่งถ้าธุรกิจไหนให้ความสำคัญกับเว็บไซต์หรือสื่อโซเชียลต่างๆ โดยทำให้เกิดความโดดเด่น น่าสนใจ ดึงดูด และหาข้อมูลได้ง่าย ก็จะยิ่งเพิ่มความสนใจของลูกค้าทำให้เกิดความประทับใจจนนำไปสู่การตัดสินใจซื้อสินค้าหรือบริการของเราในอนาคตอีกด้วย
ช่องทางการทำ Online marketing
สำหรับช่องทางการทำ Online marketing ที่นิยมในปัจจุบันสามารถทำได้ 8 ช่องทางหลักๆ คือ SEO, Influencer Marketing, Google Ads, Content Marketing, Video Marketing, Social Media Marketing, Affiliate Marketing และ Email Marketing โดยแต่ละช่องทางมีรายละเอียด ดังนี้
1. SEO
Search Engine Optimization หรือที่รู้จักกันในชื่อย่อ SEO คือ การปรับปรุง ปรับแต่ง เนื้อหาของเว็บไซต์ให้มีคุณภาพ และการเพิ่ม Black link ที่มีความน่าเชื่อถือและมีคุณภาพมายังเว็บไซต์ จุดประสงค์หลักของการทำ SEO เพื่อทำให้เว็บไซต์ติดอันดับการค้นหาเป็นลำดับแรกๆ โดยมีการกำหนด Keyword หรือ Content เข้าไป ผ่าน Search Engine เช่น Google เป็นต้น สำหรับข้อดีของการทำ SEO ที่ดีกว่าการยิง Ads คือ ผลลัพธ์ของ SEO จะปรากฎอยู่ 24 ชั่วโมง ทำให้ผู้ค้นหาพบข้อมูลได้ตลอดเวลา
สำหรับผู้เริ่มต้น คู่มือสอน SEO แบบละเอียดตั้งแต่เริ่มต้น
2. Influencer Marketing
Influencer Marketing เป็นการทำการตลาดออนไลน์โดยใช้ผู้ที่มีชื่อเสียงหรือผู้ที่อิทธิพลบนโลกโซเชียลเข้ามาช่วยประชาสัมพันธ์หรือรีวิวสินค้าหรือบริการของเรา โดยส่วนใหญ่ Influencer มักเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียง เช่น ดารา ไอดอล นักร้อง ยูทูปเบอร์ เป็นต้น กลุ่มคนเหล่านี้มักได้รับการยอมรับจากคนรุ่นใหม่ไม่ว่าจะเลือกใช้สินค้าใดผู้คนจะสนใจ ติดตาม และทดลองซื้อสินค้านั้นๆ การเลือกใช้ Influencer สักคนไม่จำเป็นต้องเลือกคนที่มีผู้ติดตามจำนวนมากเสมอไป แต่ควรเป็นคนที่เหมาะสมกับสินค้าและบริการของกลุ่มเป้าหมายเพื่อให้เกิดแรงจูงใจและรู้สึกว่าเป็นพวกเดียวกันจนนำไปสู่การตัดสินใจซื้อในที่สุด
3. Google Ads
Google นับว่าเป็นเครือข่ายที่มีผู้คนจำนวนมากใช้งานอย่างต่อเนื่อง การยิง Ads ผ่าน Google ทำให้ประชาสัมพันธ์ข้อมูลต่างๆ มีโอกาสสูงที่จะเข้าถึงลูกค้า จนสร้างให้เกิดการรับรู้ สนใจ และตัดสินใจซื้อสินค้าหรือบริการนั้นๆ สำหรับการโฆษณาแบบออนไลน์ ผ่านเครือข่ายของ Google มีการให้บริการหลายอย่าง ได้แก่ Google Search หรือที่เรียกว่า SEM (Search Engine Marketing) ซึ่งเป็นส่วนของ Paid Search หรือ Pay Per Click
4. Content Marketing
การทำการตลาดออนไลน์บนแพลตฟอร์มหรือโซเชียลมีเดียต่างๆ โดยใช้ Content เป็นสื่อกลาง ซึ่งการทำ Content สามารถทำได้หลายรูปแบบ เช่น วีดีโอ ภาพถ่าย บทความ กราฟฟิก หรือพอดแคสต์ เป็นต้น จุดประสงค์หลักของการตลาดออนไลน์ประเภทนี้ คือ การให้ความสำคัญกับเนื้อหาทำให้ลูกค้าเกิดความประทับใจ และเพิ่มจำนวนผู้ติดตามบนโซเชียลมีเดีย และนำไปสู่การตัดสินใจซื้อสินค้าหรือบริการในที่สุด นอกจากนี้การทำ Content ที่ดีและมีคุณภาพยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของ SEO ได้อีกด้วย
5. Video Marketing
เป็นรูปแบบหนึ่งใน Content Marketing แต่จะเน้นการใช้วีดีโอเพื่อทำการตลาดออนไลน์ เนื่องจากสามารถดึงดูดผู้ชมได้ง่ายเพราะวีดีโอมีทั้ง เสียง ภาพ เพลง ลูกเล่นต่างๆ ที่ทำให้ผู้ชมเกิดความคล้อยตามได้ง่ายจนนำไปสู่การซื้อสินค้าหรือบริการ สำหรับช่องทางการลงวีดีโอที่นิยม เช่น TikTok, Facebook, YouTube และ Instagram เป็นต้น
6. Social Media Marketing
การทำการตลาดออนไลน์บนโซเชียลมีเดียต่างๆ เช่น Instagram, Facebook, YouTube หรือ Twitter เป็นต้น โดยสื่อโซเชียลเหล่านี้เป็นช่องทางในการให้ข้อมูล ประชาสัมพันธ์ และโฆษณาสินค้าหรือบริการ รวมถึงเป็นช่องทางที่เจ้าของธุรกิจสามารถติดต่อกับลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว นับเป็นการเพิ่มการรับรู้ของแบรนด์และยังเพิ่มโอกาสในการกระตุ้นยอดขายได้อีกด้วย
7. Affiliate Marketing
รูปแบบการตลาดประเภทนี้จะคล้ายกับ Influencer Marketing แต่จะแตกต่างกันที่ Affiliate Marketing จะใช้ค่าคอมมิสชันจากการช่วยขายเป็นค่าตอบแทน และจำเป็นต้องมีตัวกลางระหว่างเจ้าของธุรกิจกับผู้ที่จะช่วยขายสินค้า เพื่อติดตามข้อมูลได้ว่าลูกค้าสั่งซื้อจากใคร สื่อไหน เพื่อนำข้อมูลนี้ไปคำนวณต่อในการจ่ายค่าตอบแทน
8. Email Marketing
เป็นการทำการตลาดผ่านอีเมล โดยข้อมูลที่ส่งผ่านอีเมลจะเน้นไปที่การประชาสัมพันธ์ข่าวสาร โปรโมชั่นต่างๆ ของสินค้าหรือบริการ ไปยังลูกค้าที่ได้ให้ข้อมูลการติดต่อไว้ ทำให้เกิดการติดต่อและระหว่างแบรนด์กับลูกค้า ช่วยรักษาความสัมพันธ์ สร้างความเชื่อมั่นให้กับแบรนด์
การส่งอีเมลโปรโมชั่นสินค้าให้ลูกค้า ยังช่วยสร้างความรู้สึกพิเศษและให้ความรู้สึกว่าเจ้าของสินค้าให้ความสำคัญกับผู้ซื้อจนเกิดเป็นความประทับใจ ทำให้การซื้อสินค้าในรอบต่อไปง่ายขึ้น และที่สำคัญวิธีการนี้ยังเป็นวิธีการที่ประหยัดต้นทุน สามารถสื่อสารไปยังลูกค้าได้โดยตรงอีกด้วย
ขั้นตอนการทำ Online marketing
สำหรับขั้นตอนการทำ Online marketing การเปลี่ยนจากกลุ่มเป้าหมายหรือคนแปลกหน้าให้มาเป็นลูกค้าของเราตลอดกาล มีขั้นตอนที่ไม่ยุ่งยากและเชื่อว่าหลายๆ ธุรกิจสามารถนำขั้นตอนเหล่านี้ไปประยุกต์ใช้ได้ ดังนี้
ขั้นตอนที่ 1 Awareness สร้างการรับรู้ : หากแบรนด์ของคุณยังไม่เป็นที่รู้จัก หรือรู้จักแล้วแต่ยังจำกัดอยู่ในวงแคบ การทำตลาดออนไลน์เป็นสิ่งจำเป็นที่ต้องเริ่มทำเป็นอันดับแรก เพราะการไม่มีตัวตนบนโลกออนไลน์ก็เปรียบเสมือนกับธุรกิจของเราไม่มีแสงสว่าง ดังนั้น การสื่อสารหรือประชาสัมพันธ์ออกไปจะทำให้ผู้คนรับรู้ รู้จักและมีตัวตนมากขึ้น เมื่อเกิดการรับรู้การขายสินค้าหรือบริการในขั้นตอนต่อไปก็จะง่ายขึ้น
ขั้นตอนที่ 2 Discovery การค้นพบ : Content ถือเป็นสิ่งที่สำคัญในขั้นตอนนี้ คุณจำเป็นต้องวาง
กลยุทธ์และทำการตลาดให้กับ Content โดยจุดประสงค์ในขั้นตอนนี้ไม่ใช่เพื่อการขายแต่เน้นไปที่การให้ข้อมูลที่จำเป็นและเป็นประโยชน์ต่อผู้อ่าน
ขั้นตอนที่ 3 Consideration การพิจารณา : วัตถุประสงค์ของขั้นตอนนี้ คือ เพื่อให้ลูกค้าจ่ายเงินซื้อสินค้าหรือบริการของเรา โดยคุณสามารถนำเสนอสินค้าหรือบริการว่าสามารถตอบโจทย์ให้ลูกค้าได้อย่างไรบ้าง เพื่อให้ลูกค้ารับรู้ว่าสินค้าหรือบริการของเราเหมาะสมกับลูกค้าเพียงใด
ขั้นตอนที่ 4 Conversion การเปลี่ยนเป็นลูกค้า : วัตถุประสงค์ของขั้นตอนนี้ คือ เพื่อปิดการขายกับลูกค้า โดยลูกค้ามักจะมีความสนใจในสินค้าหรือบริการอยู่แล้วระดับหนึ่ง เพียงแค่คุณโน้มน้าวให้เกิดความสนใจขึ้นอีกเล็กน้อยก็จะช่วยกระตุ้นให้ลูกค้าเชื่อมั่นและพร้อมจ่ายในทันที
ขั้นตอนที่ 5 Customer Relationship การสานสัมพันธ์ : เมื่อลูกค้าซื้อสินค้าหรือบริการของเราไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว งานของเรายังคงไม่จบเพียงเท่านั้น เพราะการติดตามการใช้สินค้า การดูแลหลังการขาย การให้ข้อมูลต่างๆ เพิ่มเติมถือเป็นสิ่งจำเป็น เพื่อทำให้ลูกค้ากลับมาซื้ออีกครั้งและเป็นลูกค้าของเราในระยะยาว
ขั้นตอนที่ 6 Retention การรักษาฐานลูกค้าเดิม : หลายๆ ครั้งเรามักจะให้ความสนใจกับลูกค้าใหม่ ซึ่งนั้นก็ไม่ผิดอะไร แต่สิ่งที่สำคัญควรจำไว้ว่าลูกค้าเดิมเป็นผู้ที่เคยซื้อสินค้าและรู้จักสินค้าของเราเป็นอย่างดี การให้บริการหลังการขาย การสอบถามข้อมูลให้การช่วยเหลืออยู่ตลอดเวลาจะช่วยสร้างความประทับและกลับมาซื้อซ้ำไม่ยากเท่ากับคนที่ไม่เคยเป็นลูกค้าของเรามาก่อน
ความแตกต่างของ Online marketing กับ Digital marketing
เรามักจะเห็นคนใช้คำว่า Online marketing กับ Digital marketing สลับกันไปมาอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งความหมายของสองคำนี้ก็สามารถตีความออกมาได้หลายแง่มุม แต่จะขอสรุปความหมายรวมๆ กันได้ดังนี้
- Online marketing คือ การทำการตลาดบนสื่อออนไลน์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อทำให้สินค้าหรือบริการเป็นที่รู้จักเพิ่มขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการซื้อ การขาย การโฆษณา หรือการวางแผนการตลาดผ่านทางอินเตอร์เน็ต โดยใช้วิธีต่างๆ ซึ่งคอมพิวเตอร์สามารถโต้ตอบกับผู้ใช้งานได้และได้รับการตอบกลับอย่างรวดเร็ว กล่าวโดยง่าย คือ การสร้างเว็บไซต์ขึ้นมาเพื่อทำการตลาดนั่นเอง
- Digital Marketing คือ การทำการตลาดบนโลกออนไลน์ผ่านช่องทางอินเทอร์เน็ตและเทคโนโลยีผสมกัน โดยใช้ Social Network เป็นกลยุทธ์ทางการตลาด และยังเป็นการสร้างสินค้าหรือบริการใหม่ๆ ที่โดดเด่นกว่าสินค้าเดิมที่มีอยู่หรือเป็นนวัตกรรม โดยใช้เครื่องมือทางอิเล็กทรอนิกส์ในระบบดิจิตอล เช่น การใช้เครือข่ายอินเทอร์เน็ต เว็บไซต์ มือถือ เป็นต้น
สรุป Panda99 การตลาดออนไลน์
การตลาดออนไลน์ (Online marketing) ถือเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่มีความสำคัญในการเพิ่มยอดขายของสินค้าหรือบริการ เจ้าของธุรกิจหลายๆ คนต้องเริ่มปรับตัวและเรียนรู้การทำการตลาดออนไลน์ ซึ่งนั้นไม่ใช่เรื่องยากเพียงแค่ต้องรู้จักสินค้าและบริการให้ดี เพื่อที่จะกำหนดกลุ่มเป้าหมายได้อย่างชัดเจน และวางแผนโฆษณาหรือประชาสัมพันธ์สินค้าให้คนรู้จักในวงกว้าง รวมถึงการกระตุ้นยอดขายให้สูงขึ้น การตลาดออนไลน์มีรูปแบบให้เลือกใช้หลากหลายช่องทาง สามารถวัดผลได้อย่างแม่นยำ ช่วยลดค่าใช้จ่ายในการโฆษณา และจุดที่สำคัญคือทำให้เกิดการสื่อสารสองทางช่วยให้การรับส่งข้อมูลระหว่างเจ้าของแบรนด์และลูกค้าง่ายขึ้น เมื่อได้ข้อมูลอย่างรวดเร็วลูกค้าก็จะสามารถตัดสินใจซื้อได้อย่างรวดเร็วเช่นกัน